10 นักวิทยาศาสตร์ด้านฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

พามารู้จัก 10 นักวิทยาศาสตร์เปลี่ยนโลก ที่ทำให้โลกการเรียนรู้ของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป จะนักวิทยาศาสตร์ท่านใดบ้าง ไปดูกัน

10 นักวิทยาศาสตร์ด้านฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

Isaac-Newton ไอแซค นิวตัน

เซอร์ไอแซก นิวตัน (Sir Isaac Newton)

เซอร์ไอแซก นิวตัน (ค.ศ.1643 – 1727) เขาได้รับการยกย่องว่าคือหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ นิวตันเกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 1643 ในหมู่บ้านวูลส์ธอร์ป บาย โคลสเตอร์เวิร์ธ (Woolsthorpe-by-Colsterworth) ย่านชนบทแห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ต่อมานิวตันได้เข้าเรียนที่ Trinity College มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และเป็นช่วงเวลานี้เองที่นิวตันเริ่มพัฒนาแคลคูลัสและทฤษฎีแรงโน้มถ่วง โดยทฤษฎีนี้จะปฏิวัติความเข้าใจเกี่ยวกับจักรวาลของเราครั้งยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา

ในปี ค.ศ. 1687 นิวตันตีพิมพ์ผลงานของเขาชื่อ “Philosophiæ Naturalis Principia Mathematica”  ซึ่งนำเสนอกฎการเคลื่อนที่และกฎความโน้มถ่วงสากลของเขา หรือที่เราเรียกกันว่า “กฎ 3 ข้อของนิวตัน” โดยกฎเหล่านี้อธิบายพฤติกรรมของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่และแรงโน้มถ่วงที่ยึดวัตถุเหล่านั้น ผลลัพธ์จากกฎการเคลื่อนที่ของนิวตันทำให้เราสามารถคาดการณ์การเคลื่อนที่วัตถุต่างๆได้อย่างแม่นยำ ถึงขนาดสามารถคาดการณ์การโคจรของดวงดาวต่างๆได้ นอกจากนี้นิวตันก็ยังมีผลงานในด้านทัศนศาสตร์อีกด้วย เขาได้แสดงให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วแสงสีขาวจากดวงอาทิตย์เป็นส่วนผสมที่เกิดจากการรวมกันของแสงสี สำหรับผลงานด้านอื่นของนิวตันโดดเด่น คือนิวตันมีส่วนร่วมในการเมืองและเศรษฐศาสตร์ โดยเขาทำหน้าที่ในรัฐสภาอังกฤษและได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลโรงกษาปณ์ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิรูปสกุลเงินของประเทศ

เซอร์ ไอแซก นิวตัน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1727 ขณะอายุ 84 ปี โดยเขาได้ฝากผลงงานที่ยิ่งใหญ่ที่มีผลอย่างมากต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจนถึงปัจจุบัน

Albert-Einstein

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ Albert Einstein

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (ค.ศ. 1879 – 1955)  เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันที่มีผลงานที่สำคัญมากมายในสาขาฟิสิกส์ และเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่สำคัญและมีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ ไอน์สไตน์เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 1879 ที่เมืองอูล์ม ประเทศเยอรมนี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เมษายน ปี 1955 ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ในปี ค.ศ 1905 ไอน์สไตน์ได้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ (Theory of Relativity) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วของวัตถุกับเวลา เป็นอีกหนึ่งทฤษฎีที่มีผลกระทบกับการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบันอย่างมาก และได้พัฒนาต่อเนื่องจนถึงทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity) ในปี ค.ศ. 1915 นอกจากนี้ ไอน์สไตน์ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาหลายทฤษฎีและการวิจัยด้านฟิสิกส์ต่างๆ เช่น ทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัม (Quantum Mechanics) ทฤษฎีที่อธิบายความเป็นไปได้ของการเกิดแสง (Theory of Photoelectric Effect) และหลายทฤษฎีอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นส่วนสำคัญของฟิสิกส์สมัยใหม่

ส่วนหนึ่งของทฤษฎีสัมพัทธภาพ (Theory of Relativity) ที่เขาได้เสนอในปี ค.ศ. 1905 คือ สมการ E = mc² เป็นสมการที่เชื่อมโยงระหว่างพลังงาน (E) กับมวล (m) และความเร็วแสง (c) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานและมวลในฟิสิกส์ สมการนี้เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีและประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นแหล่งค้นคว้าในฟิสิกส์ที่ยังคงเป็นไปได้ในปัจจุบันด้วย

Galileo-Galilei

กาลิเลโอ กาลิเลอี Galileo Galilei

กาลิเลโอ กาลิเลอี (ค.ศ. 1564 – 1642) เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ที่ได้รับขนานนามว่าเป็น ‘บิดาแห่งวิทยาศาสตร์’ กาลิเลโอเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1564 ในเมือง Pisa ประเทศอิตาลี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1642 ณ Florence ประเทศอิตาลี

ในการศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของวัตถุที่มีความเร่งคงที่ กาลิเลโอได้ทำการทดลองโดยใช้ตัวควบคุมในการเคลื่อนที่ของวัตถุที่เคลื่อนที่แบบแนวตรง โดยการทำลายตัวควบคุมนั้นจะทำให้วัตถุเคลื่อนที่อยู่ในสภาวะเคลื่อนที่ไม่มีแรงกดขี่ หรือเคลื่อนที่โดยเกิดการเคลื่อนที่ด้วยตนเอง กาลิเลโอจึงสังเกตพบว่า วัตถุที่เคลื่อนที่แบบแนวตรงจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่มีค่าคงที่ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วเมื่อไม่มีแรงกดขี่ที่กระทำต่อวัตถุนั้น นั่นหมายความว่าวัตถุที่เคลื่อนที่แบบแนวตรงจะมีความเร่งคงที่เท่ากับศูนย์ เนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วเลยไม่สามารถมีความเร่งได้ โดยผลลัพธ์จากการทดลองของกาลิเลโอนี้ได้ถูกนำไปใช้ในการพัฒนาทฤษฎีของนิวตันเกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบแนวตรงที่เป็นพื้นฐานของการศึกษาเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ทั้งหมดในอนาคต

Michael-Faraday

ไมเคิล ฟาราเดย์ Michael Faraday

ไมเคิล ฟาราเดย์ (ค.ศ. 1791 – 1867) เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีผลงานมากมายในด้านกลศาสตร์และไฟฟ้าแม้ว่าเขาไม่ได้รับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย  ฟาราเดย์เกิดเมื่อวันที่  22 กันยายน ค.ศ. 1791 ในเมืองนิวอิงตัน เซอร์รีย์ ประเทศอังกฤษ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1867 ในเมืองแฮมป์ตันคอร์ท ประเทศอังกฤษ

ฟาราเดย์ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งไฟฟ้า” เนื่องจากค้นพบหลักการเกี่ยวกับแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งเป็นพื้นฐานของการทำงานของเครื่องเหนี่ยวนำไฟฟ้า และไดนาโม โดยเขาได้ทำการทดลองและพบว่าเมื่อนำแม่เหล็กเคลือบด้วยสารไฟฟ้า แล้วนำไปผ่านสนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนแปลง จะส่งผลให้เกิดกระแสไฟฟ้าหรือเหนี่ยวนำไฟฟ้าได้ ซึ่งการค้นพบนี้ได้เปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของไฟฟ้า และเป็นพื้นฐานของการสร้างเครื่องมือและเทคโนโลยีไฟฟ้าในปัจจุบัน

James-Clerk-Maxwell

เจมส์เคลิร์กแม็กซ์เวลล์ James Clerk Maxwell 

เจมส์เคลิร์กแม็กซ์เวลล์(ค.ศ. 1831 – 1879) เป็นศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์เชิงทดลอง ที่ถูกยกย่องให้เป็น ‘บิดาแห่งฟิสิกส์สมัยใหม่’ เจมส์เคลิร์กแม็กซ์เวลล์ เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 1831 ที่เมืองเอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์  และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ 

James Clerk Maxwell ได้สร้างสมการคณิตศาสตร์ที่เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อสมการแม็กซ์เวลล์ (Maxwell’s equations) ซึ่งเป็นสมการที่ใช้ในการอธิบายพฤติกรรมของแม่เหล็กและไฟฟ้า โดยใช้คำนวณเชิงคณิตศาสตร์เพื่ออธิบายคุณสมบัติของการกระจายและสะท้อนของคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็ก และเป็นส่วนสำคัญของทฤษฎีการ elecromagnetic (ไฟฟ้าแม่เหล็ก) ที่สามารถอธิบายพฤติกรรมของคลื่นแม่เหล็กได้อย่างถูกต้อง สมการแม็กซ์เวลล์ถือเป็นหนึ่งในพื้นฐานของทฤษฎีไฟฟ้าแม่เหล็ก และได้มีผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีด้านไฟฟ้าและการสื่อสารในปัจจุบัน

Blaise-Pascal

บลาส์ ปาสกาล Blaise Pascal

บลาส์ ปาสกาล (ค.ศ. 1623 – 1662) เป็นนักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศสที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับของเหลว และแรงดันของเหลว ปาสกาลเกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1623 ที่เมืองแกลร์มง ประเทศฝรั่งเศส และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1662 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ปาสกาล มีความสนใจในการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างแรงและการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการศึกษาเกี่ยวกับของเหลวและแรงดันของเหลว เขาได้พัฒนาทฤษฎีเกี่ยวกับแรงดันของเหลว ที่เรียกว่า “Pascal’s law” หรือ “หลักของ Pascal” ซึ่งกล่าวว่า “แรงที่ประกอบด้วยของเหลวและแรงดันจะแพร่กระจายไปยังทุกจุดของของเหลวในทิศทางเดียวกัน” ทฤษฎีนี้เป็นพื้นฐานของการออกแบบและใช้งานเครื่องจักรไฮโดรลิคและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน

Alessandro-Volta

อเลสซานโดร โวลตา Alessandro Volta

อเลสซานโดร โวลตา (ค.ศ. 1745 – 1827) เป็นนักฟิสิกส์และเคมีชาวอิตาลีที่มีผลงานสำคัญในการพัฒนาการผลิตไฟฟ้า โวลตาเกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1745 ที่เมืองโคโม ประเทศอิตาลี และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1827 ที่เมืองโคโม ประเทศอิตาลี

โวลตาได้ล้มล้างทฤษฎีว่ามนุษย์เท่านั้นที่สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้ โดยเขาได้สร้าง “แหล่งไฟฟ้า” ขึ้นมาด้วยการนำสองชิ้นของโลหะต่างกันมาติดกัน โดยใช้ผ้าชุบกรดเพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อ และต่อมาก็นำมาประกอบกับกระบวนการผลิตไฟฟ้าแบบเรียงต่อกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างกระแสไฟฟ้า สิ่งที่ทำให้การสร้าง “แหล่งไฟฟ้า” นี้เป็นเรื่องสำคัญคือ การพิสูจน์ได้ว่ากระแสไฟฟ้าสามารถสร้างขึ้นโดยกระบวนการเคมีที่เป็นไปได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์อยู่เป็นส่วนประกอบของกระแสไฟฟ้าเสมอไป จากการทาการทดลองครั้งนี้เขาได้สร้างเครื่องที่เรียกว่า “แบตเตอรีโวลต้า” (Voltaic pile) ในปี ค.ศ. 1800 ซึ่งจากนั้นก็นำไปใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีไฟฟ้าเคมีต่อมา และเป็นพื้นฐานในการสร้างแบตเตอรี่ในปัจจุบัน

Andre-Marie-Ampere

อังเดร มารี แอมแปร์ Andre Marie Ampere

อังเดร มารี แอมแปร์ (ค.ศ. 1775 – 1836) เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสที่ได้แนะนำแนวคิดในการเชื่อมโยงระหว่างแม่เหล็กกับกระแสไฟฟ้า และกำหนดหน่วยของกระแสไฟฟ้า (Ampere)  แอมแปร์เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1775 ที่เมืองโปลีมีเยอร์ ประเทศฝรั่งเศส และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1836 ที่เมืองมาร์แชลล์ ประเทศฝรั่งเศส

แอมแปร์ได้ค้นพบทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้าและหน่วยของการวัดกระแสไฟฟ้า และทำการทดลองตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างกระแสไฟฟ้าและแม่เหล็กโดยสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมา จากนั้นเขาได้ใช้สนามแม่เหล็กนี้ในการทดสอบการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ นับเป็นการเริ่มต้นของการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวันของเราในปัจจุบัน

James-Watt

เจมส์ วัตต์ James Watt

เจมส์ วัตต์ (ค.ศ. 1735 – 1819) วิศวกรเครื่องกลชาวสกอต ที่ได้ประดิษฐ์เครื่องจักรแรงดันไอน้ำ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม และการสร้างคำว่า “แรงม้า” ซึ่งเป็นวิธีการคำนวณประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องจักร เจมส์ วัตต์ เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม ค.ศ. 1735 ที่เมืองกรีนน็อค ประเทศอังกฤษ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม ค.ศ. 1819 ที่ประเทศอังกฤษ

เจมส์ วัตต์ได้ประดิษฐ์เครื่องจักรแรงดันไอน้ำขึ้นมา ซึ่งฉบับปรับปรุงจากเครื่องจักรของ Thomas Newcomen โดยทำให้เครื่องจักรใช้พลังไอน้ำแทนพลังอากาศร้อนในการทำงาน ทำให้เครื่องจักรมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถใช้ในการขุดเหมืองและการผลิตอุตสาหกรรมได้อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้คิดค้นหน่วยวัดกำลังไฟฟ้าชื่อว่า “วัตต์ (Watt : W)” ซึ่งถูกตั้งชื่อตามชื่อของเขาด้วย โดยหน่วยวัดกำลังไฟฟ้านี้ยังใช้งานอยู่จนถึงปัจจุบัน

Stephen-Hawking

สตีเฟ่น ฮอว์คิง Stephen Hawking

สตีเฟ่น ฮอว์คิง (ค.ศ. 1942 – 2018) นักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลวิทยาชื่อดังระดับโลก สตีเฟ่น ฮอว์คิง เกิดเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1942 ที่เมือง Oxford ประเทศอังกฤษ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2018 ที่เมือง Cambridge ประเทศอังกฤษ

สตีเฟ่น ฮอว์คิง เป็นผู้ค้นพบปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ที่เรียกว่า “การแผ่รังสีฮอว์คิง” (Hawking Radiation) ซึ่งเป็นการถอดรหัสเกี่ยวกับสมการทฤษฎีสร้างจักรวาล (Theory of General Relativity) และทฤษฎีควอนตัม (Quantum Mechanics) โดยเฉพาะเรื่องการประมวลผลของแรงโน้มถ่วงของหมวดหมู่ของวัตถุกับรังสี และเขาเป็นคนแรกที่พยายามรวบรวมทั้งสองทฤษฎีเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดภาพเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับรูปแบบของจักรวาลโดยรวม ผลงานดังกล่าวได้นำไปสู่การพัฒนาในสาขาของฟิสิกส์ทฤษฎี เป็นเรื่องที่น่าสนใจและมีผลกระทบต่อการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ต่อไป

กันยายน 5, 2023