ทำไมวันที่ 18 ส.ค. ถึงเป็นวันวิทยาศาสตร์ไทย?
เรื่องเล่าจากวันฟ้าปิด
น้อง ๆ รู้มั้ยครับว่า วันวิทยาศาสตร์ไทย หรือ วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Science Day) ตรงกับวันที่ 18 สิงหาคมของทุกปี ก็เพราะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นเมื่อกว่า 150 ปีก่อน — เหตุการณ์ที่ทำให้ทั่วโลกต้องหันมายอมรับความสามารถทางวิทยาศาสตร์ของคนไทย
วันนั้นคือวันที่ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ทรงคำนวณการเกิด สุริยุปราคาเต็มดวง ได้อย่างแม่นยำที่สุด จนกลายเป็นหมุดหมายทางวิทยาศาสตร์ของประเทศ และเป็นเหตุผลที่วันนี้ถูกยกให้เป็น วันวิทยาศาสตร์ไทย
แต่ใน “วันฟ้าปิด” ที่หว้ากอ เกิดอะไรขึ้นจริง ๆ กันแน่?
ลองไปย้อนเวลาไปพร้อมกันครับ 🚀
สารบัญ :
ย้อนกลับไปกว่า 150 ปีก่อน
18 สิงหาคม พ.ศ. 2411 ประเทศไทยกำลังจะเผชิญปรากฏการณ์สำคัญ — สุริยุปราคาเต็มดวง
รัชกาลที่ 4 ทรงมิใช่เพียงกษัตริย์ แต่ยังเป็น นักดาราศาสตร์ผู้หลงใหลการคำนวณ พระองค์ทรงใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์คำนวณวัน เวลา และสถานที่ที่จะเห็นสุริยุปราคาได้อย่างแม่นยำที่สุด ทั้งที่ในสมัยนั้นโลกยังไม่มีเครื่องมือทันสมัย
และผลลัพธ์ก็เป๊ะจริง! 🌑☀️
นักวิทยาศาสตร์จากหลายประเทศจึงพากันเดินทางมาที่ “หว้ากอ” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนั้น
สุริยุปราคา…วันที่เปลี่ยนภาพวิทยาศาสตร์ไทย
เช้าวันที่ 18 สิงหาคม บริเวณหว้ากอเต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์จากต่างแดน ทุกคนรอคอยวินาทีประวัติศาสตร์
เมื่อถึงเวลาที่พระองค์คำนวณไว้ ฟ้าค่อย ๆ มืดลง ลมพัดเย็น เสียงนกเงียบกริบ และดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์จนหมดสิ้น ท้องฟ้ากลายเป็นสีคล้ำ มีเพียงขอบฟ้าเรืองแสงสีทองสวยงามราวภาพวาด
ภาพนั้นไม่เพียงสร้างความตื่นตะลึง แต่ยังยืนยันว่า “การคำนวณของพระองค์ถูกต้องอย่างไร้ที่ติ”
เหตุการณ์นี้กลายเป็น จุดหักเหครั้งสำคัญ เพราะทำให้ไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ว่ามีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ไม่แพ้ชาติใด

ขอบคุณภาพจาก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
จากเรื่องเล่า…สู่ “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ”
กว่า 100 ปีผ่านไป รัฐบาลไทยจึงประกาศให้ 18 สิงหาคม ของทุกปีเป็น วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (พ.ศ. 2525) เพื่อรำลึกถึงพระปรีชาสามารถของรัชกาลที่ 4 และเพื่อกระตุ้นให้สังคมไทยเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ต่อการพัฒนาประเทศ
ตั้งแต่นั้นมา เราจึงมีทั้ง กิจกรรม นิทรรศการ และงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ จัดขึ้นทั่วประเทศ ทั้งในโรงเรียน มหาวิทยาลัย และศูนย์วิทยาศาสตร์ เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้ซึมซับพลังของวิทยาศาสตร์ และแรงบันดาลใจจาก “วันฟ้าปิด”
ทุกปี…มีการจัดงานวันวิทยาศาสตร์อย่างไรบ้าง
เมื่อถึงช่วงกลางเดือนสิงหาคม โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ จะจัดกิจกรรมมากมาย เช่น
-
นิทรรศการวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์
-
เวิร์กช็อปทดลองสนุก ๆ
-
การประกวดโครงงานและตอบปัญหา
-
การสาธิตการทดลอง “ว้าว” ที่ชวนตะลึง
พร้อมการมอบรางวัล “นักวิทยาศาสตร์ดีเด่น” และ “นักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์” เพื่อยกย่องผู้สร้างคุณูปการให้ประเทศ
บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุก ตื่นตา และแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นเด็กที่เพิ่งลองใช้กล้องจุลทรรศน์ครั้งแรก หรือผู้ใหญ่ที่ตื่นเต้นกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
หว้ากอ…จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ถ้าจะพูดถึงสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดใน วันวิทยาศาสตร์ไทย ก็คงหนีไม่พ้น “อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ” จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่นี่คือสถานที่จริงซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จมาสังเกตการณ์สุริยุปราคาเต็มดวงในปี พ.ศ. 2411 ถ้าสนใจเรื่องปรากฏการณ์ท้องฟ้าอื่น ๆ ที่น่าทึ่ง ลองอ่าน UAP ปริศนาบนท้องฟ้า ดูได้เลย

ขอบคุณภาพจาก อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ
18 สิงหาคม…วันที่ท้องฟ้าจุดประกายอนาคต
ทุกครั้งที่เรามองขึ้นไปบนฟ้าในวันที่ 18 สิงหาคม อาจไม่เห็นสุริยุปราคาเหมือนวันนั้น แต่เราสามารถนึกถึง พระปรีชาสามารถของรัชกาลที่ 4 และใช้เป็นแรงบันดาลใจให้กล้าคิด กล้าทดลอง และกล้าค้นหาความรู้ใหม่ ๆ
เพราะท้ายที่สุดแล้ว วันวิทยาศาสตร์ไทย ไม่ได้มีไว้แค่ระลึกถึงอดีต แต่มีไว้เพื่อสร้างอนาคตของเราเช่นกัน 🌍✨
📌 ถ้าอยากเข้าใจเรื่องสุริยุปราคา (Solar Eclipse) ให้ลึกขึ้นดูที่นี่เลย หรือไปติดตามข้อมูลจาก สมาคมดาราศาสตร์ไทย
แต่ถ้าอยากเริ่มปูพื้นฐานฟิสิกส์แน่น ๆ เพื่อเข้าใจโลกและท้องฟ้า พี่มีคอร์สเรียนฟรีรออยู่ คลิกเลย 👇🚀